ใส่ปุ๋ยให้ถูกเมล่อนก็งาม ตอนที่2 (ตอนจบ)
สูตรการให้ปุ๋ยเมล่อน ตอนจบ
ที่มาของสูตรปุ๋ยเมล่อนนี้ หรือบทความหลาย ๆ
บทความที่ผมลงไว้นั้นส่วนใหญ่มาจาก “กลุ่มใส่ปุ๋ยให้ถูกพืชก็งาม
by อ.ภพ Pobsak Panasrithong” ผมไม่ได้คิดเองนะครับ ซึ่งทางสวนผม “สวนเมล่อนบ้านโกหน่อง” ก็ใช้สูตรปุ๋ยนี้เป็นต้นแบบครับ บอกเลยว่าสูตรปุ๋ยนี้สุดยอดจริงครับ
ได้ผลดี ประหยัดอีกต่างหาก ผมต้องขอบคุณท่าน อ.ภพ มา ณ ที่นี้ด้วยที่แบ่งปันสิ่งดี
ๆ แบบนี้ต่อพี่น้องเกษตรกรชาวไทย
3. ช่วง 3 เป็นช่วงออกดอกจนติดผลอ่อนขนาดเท่าไข่ไก่ ในประมาณ 1 สัปดาห์นี้เราจะลด 16-16-16
+15-0-0และ Mg ลง (ถ้าเราให้ ปุ๋ยช่วงที่ 1 และ 2 เพียงพอ) แต่จะให้ P ฟอสฟอรัส กับ B เพิ่ม แล้วเสริมด้วยปุ๋ย 0-52-34 (โมโนโปตัสเซียมฟอสเฟต MKP)ขนาด 0.5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตรฉีดพ่นทางใบ และเสริมทางรากอีกทางประมาณ 2-3 ครั้งตั้งแต่เริ่มเห็นดอกตัวผู้จนติดผลอ่อนเท่าไข่ไก่
เพื่อเพิ่มฟอสฟอรัสในการสร้างดอกตัวผู้ และตัวเมีย หรือจะให้ 12-60-0 ทางรากแทนก็ได้ แล้วเสริมด้วยB ให้ในรูปกรดบอริก (H3BO3) ฉีดพ่นทุก 3 วันเพื่อช่วยในการติดดอกส่วนชุดจุลธาตุโลหะ Fe
Mn Zn Cu Mo ก็ฉีดตามปกตินะครับ (ต้นที่ก่อนผสมดอกและหลังผสมดอก 2-3วันไม่ต้องฉีดพ่นนะครับ)
4. ช่วง 4 เป็นช่วงขยายลูก
สร้างลาย อีกประมาณ 35-40 วัน
ผลของเมล่อนจะขยายอย่างรวดเร็วในช่วง 25 วันแรก
โดยธาตุที่จำเป็นต่อการขยายผลคือN กับ K (โปตัสเซียม) ช่วงนี้จะใช้ 13-0-46 โปตัสเซียมไนเตรท (KNo3) +15-0-0 ในสัดส่วน 70/30 ถ้าลูกใหญ่หรืออากาศหนาวปรับการให้ป็น 60/40 หรือ 50/50 และจุลธาตุโลหะครบชุดเพื่อช่วยในการสังเคราะห์แสงที่ดี เสริมด้วย B ทางใบและCa ที่มีอยู่ใน 15-0-0 จะช่วยให้มีธาตุสะสมเพียงพอต่อการสร้างและขยายเปลือก
5 ช่วงที่ 5 ช่วงสุดท้าย
เป็นช่วงเร่งหวาน เพิ่มลายนูน ใน 10-15 วันสุดท้ายนี้เมล่อนจะสร้างฮอร์โมนแอททีลีนเพื่อไปเร่งการสุกในลูก
ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตในผลเมล่อนไปเป็นน้ำตาล ให้เราเสริมด้วยปุ๋ยหวาน 0-0-50
(โปตัสเซียมซัลแฟต K2So4) เพื่อให้ผลไปดึงน้ำตาลที่สะสมในใบมาใช้เพื่อให้หวานเต็มที่
และใน 0-0-50 มี S อยู่เป็นองค์ประกอบ 18% จะเป็นอาหารเสริมในการสร้างกลิ่นได้ด้วย
5.1 องค์ประกอบอีกอย่างในการสร้างกลิ่นคืออ๊อกซิเจนในระบบรากอันนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุปลูก
การเดินของรากฝอย จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน หรือถุงปลูก การให้ 0-0-50 เราจะให้ทั้ง 2 ทางคือ ทางราก กับทางใบ คือใช้ 0-0-50 ผสมน้ำ 0.5 กรัม ต่อน้ำ 1
ลิตร ฉีดพ่นทางใบตอนเช้าทุก ๆ 2-3 วัน ให้ประมาน 5-7 วัน หรือ 2-3 ครั้ง (ไม่แนะนำให้ผสมกับปุ๋ยอื่น
ให้ฉีดเดี่ยว ๆ นะครับ) จากนั้น ให้ทางราก ต่ออีก 5-7 วัน ในอัตราส่วนเดียวกัน หรือให้ EC อยู่ประมาณ 1.2-1.5
ms พอครับ ให้มากไปใบจะไหม้ได้ ส่วน Ca เราก็เปลี่ยนมาให้เป็นแคลเซียมโบรอนทางใบวันเว้นวันแทน และให้ค่อยๆลดปริมาณการให้น้ำลงเรื่อย ๆ
วันละนิดตั้งแต่เริ่มทำหวาน และให้งดน้ำก่อนเก็บเกี่ยว 3 วัน (ไม่ต้องให้อะไรแล้วนะครับ) สำหรับแปลงดิน ส่วนท่านที่ปลูกในถุงปลูก ก็ให้น้ำแต่น้อย ๆ แค่พอต้นไม่เฉามากก็พอครับ
5.2 ให้จุลธาตุโลหะแบบครบชุดถี่ขึ้น แบบวันเว้นวัน
(สามารถผสมกับแคลเซียมโบรอนได้ครับ) เพื่อสร้างสีของเนื้อผลที่ชัดขึ้น
เพราะพอเมล่อนสุก ฮอร์โมนแอททีลีนจะไปกระตุ้นให้เกิดการสลายตัวของคลอโรฟิลล์
พอคลอโรฟิลล์จางลงก็จะเห็นสีส้มของแคโรทีนอยย์ในเมล่อนเนื้อส้ม ในเมล่อนเขียวก็จะเขียวจางลง
สัดส่วนยังไงต้องไปลองปรับใช้ดูเอาเองนะครับ
ช่วงทำหวาน 10-15 วันในโค้งสุดท้ายนี้สำคัญมากครับ
การให้ปุ๋ยหวานทางราก หรือฉีดทางใบต้องระมัดระวังให้มาก ให้แต่น้อย ๆ
ดีกว่าให้มากไปจนเกินนะครับ ไม่งั้นใบจะไหม้ได้ ให้แต่น้อย ๆ จะดูปลอดภัยกว่าครับ หลาย ๆ ท่านกังวลครับ
กลัวว่าเมล่อนจะไม่หวาน
ผมบอกเลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการปลูกเมล่อนคือให้ต้น
และใบสมบูรณ์ที่สุดจนครบอายุการปลูก ยังไง ๆ ก็หวานแน่นอนครับ
ขอให้สนุกกับการปลูกเมล่อนนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น